วันศุกร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2561

 บทบาทและหน้าที่ของการขนส่ง

   จะเห็นได้ว่าการขนส่งเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ในชีวิตประจำวันหรือในธุรกิจการค้า ทำให้มนุษย์เกิดความเคยชินจนบางครั้งอาจไม่ได้ตระหนักและรับรู้ถึงบทบาทของการขนส่ง เมื่อใดที่มนุษย์ขาดบริการขนส่ง ความเดือดร้อนก็จะปรากฏให้เห็นได้อย่างชัดเจน ความวุ่นวายและโกลาหลจะบังเกิดขึ้นในสังคมเพราะการขนส่งเป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงสิ่งต่างๆ จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งตามแต่ความต้องการของมนุษย์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นการทำหน้าที่บริการเพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์ โดยในบางครั้งอาจจะไม่สามารถมองเห็นเป็นรูปธรรม แต่ก็สามารถสัมผัสและรับรู้ได้ในรูปแบบของการบริการ การบริการขนส่งเป้นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ (Intangible) แต่ถ้าเป็น คน สัตว์ หรือสินค้าจะสามารถจับต้องได้ (Tangible) ดังนั้น การขนส่งจึงมีบทบาทและหน้าที่อยู่ 2 ประการด้วยกัน คือ การขนส่งมวลชน หรือการขนส่งผู้โดยสาร และการขนส่งสินค้า
   
   การขนส่งผู้โดยสาร (Passenger Transportation)
   การขนส่งผู้โดยสาร (Passenger Transportation) คือ การบริการขนส่งคนซึ่งอาศัยการขนส่งมวลชน  (Public Transportation) เพื่อไปให้ถึงจุดหมายปลายทางตามแต่ความต้องการของผู้โดยสารนั่นเอง ผู้โดยสารแต่ละคนมีความแตกต่างกันไป แต่โดยสารส่วนใหญ่แล้วผู้ที่มาใช้บริการขนส่งทุกคนมักต้องการความสะดวกสบาย ความรวดเร็วรงต่อเวลา และความปลอดภัย เป็นพื้นฐานสำคัญ โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางเพื่อการธุรกิจ ความล่าช้าในการเดินทางอาจทำให้เสียลูกค้าหรือเสียหายกับธุรกิจบริการขนส่ง หรือถ้าหากเป็นผู้เดินทางเพื่อการท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ ผู้โดยสารกลุ่มนี้จะให้ความสำคัญไปในเรื่องของราคาค่าโดยสารเป็นหลัก โดยอาจไม่พิถีพิถันในเรื่องของความสะดวกสบายในระหว่างการเดินทางกับเรื่องของเวลามากเหมือนกับกลุ่มผู้โดยสารเพื่อธุรกิจ ผู้โดยสารอีกกลุ่มหนึ่ง คือ กลุ่มที่เดินทางด้วยวัตถุประสงค์ทางสังคม เช่น ไปร่วมงานบุญ งานแต่งงาน หรือไปเยี่ยมญาติ มิตรสหายและอื่นๆ ผู้โดยสารในกลุ่มนี้อาจจะให้ความสำคัญในเรื่องของค่าใช้จ่ายและเวลามากกว่าความสะดวกสบายในระหว่างการเดินทาง เป็นต้น ด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้เกิดความหลากหลายของรูปแบบการบริการขนส่งผุ้โดยสาร เช่น ในการขนส่งมวลทางบกโดยรถทัวร์จากกรุงเทพมหานครไปเชียงใหม่ รถบริษัทเดียวกันเดินทางวันเดียวกันก็จะมีหลายราคา และหลายเที่ยวการเดินทาง รถนอน V.I.P มีวันละหนึ่งเที่ยวการเดินทางและมีราคาแพงกว่ารถปรับอากาศชั้น 1 (ป.1) เพราะมีที่นั่งเพียง 24 ที่นั่งต่อหนึ่งเที่ยวการเดินทางต่างกับรถ ป.1 ที่มีถึง 32 ที่นั่งและมีวันละหลายเที่ยวการเดินทาง หรือในการขนส่งมวลชนทางอากาศ ที่หนึ่งเที่ยวบินในเครื่องบินลำเดียวกันก็จะมีราคาหลายราคา โดยมีราคาแพงที่สุด บริการดีที่สุด และสะดวกสบายที่สุด เรียกว่าชั้นเฟิร์สคลาส (First Class) รองลงมาคือชั้นธุรกิจ (Business Class) และราคาที่ถูกที่สุด บริการระดับธรรมดา คือชั้นประหยัด (Economy Class) เป็นต้น

   อุตสาหกรรมขนส่งมวลชนเติบโตและขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้เพราะอุปสงค์หรือความต้องการในการเดินทางของประชาชนที่แตกต่างกัน ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่ออุปสงค์การเดินทางก็คือการเปลี่ยนแปลงโดยการเพิ่มหรือลดขนาดของระบบเศรษฐกิจภายในประเทศและของโลก ระบบเศรษฐกิจของโลกในปัจจุบันขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้ระบบการไหลเวียนของเงินสะพัด การที่ประชากรมีรายได้สูงขึ้นก็ส่งผลให้การเดินทางเพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัว ทั้งการเดินทางด้วยเหตุผลทางธุรกิจหรือเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ รวมไปถึงการเคลื่อนย้ายแรงงานจากประเทศที่มีแรงงานมากไปยังประเทศที่ขาดแคลนแรงงาน หรือการเคลื่อนย้ายแรงงานไปยังประเทศที่ค่าแรงถูกด้วยเหตุผลทางธุรกิจ ในเรื่องนี้คงจะเห็นภาพชัดเจนขึ้นเมื่อมีการเปิดเสรีการค้าอาเซียน (Asean Economics Community  :  AEC) ในปี พ.ศ. 2558 นอกจากนี่ยังมีการเดินทางด้วยเหตุผลอื่นๆ อีกมาก จึงทำให้อุสาหกรรมการขนส่งมวลชนเติบโตอย่างรวดเร็ว

   การขนส่งสินค้า (Freight Transrortation)
   ด้วยเหตุผลด้านความคุ้มทุนทางธุรกิจทำให้บริษัทต่างๆ ที่เป็นผู้ผลิตสินค้ากระจายแหล่งการผลิตออกไปยังสถานที่ต่างๆ ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ เพื่อทำให้องค์กรได้เปรียบในเชิงแข่งขัน นอกจากแหล่งผลิตแล้วในส่วนของแหล่งวัตถุดิบบริษัทก็ต้องกระจายออกไปด้วย โดยจะซื้อวัตถุดิบแต่ละชนิดจากสถานที่ต่างๆ ในราคาที่ถูกหรือราคาที่คุ้มทุนที่สุด การกระจายแหล่งซื้อทำให้สินค้าที่ผลิตในประเทศกนึ่งส่งไปขายในตลาดทั่วโลก รูปแบบการผลิตและการค้าดังกล่าวทำให้อุปสงค์ของการขนส่งสินค้าของประเทศและของโลกเพิ่มสูงขึ้น

   สินค้าแต่ละชนิดจะเหมาะสมกับรูปแบบการขนส่งที่แตกต่างกัน เช่น สินค้าที่มีมูลค่าสูง หรือต้องการใช้อย่างเร่งด่วน สินค้าแบบนี้เหมาะกับการขนส่งทางอากาศโดยเครื่องบิน แ่ถ้าเป็นสินค้าที่ขนส่งในระยะทางไม่ไกลมากและขนส่งในปริมาณครั้งละไม่มากก็ใช้การขนส่งทางถนน สำหรับสินค้าที่ต้องขนส่งในปริมาณครั้งละมากๆ มักใช้การขนส่งทางน้ำหรือทางเรือ การขนส่งด้วยเรือนั้นใช้เวลาในการขนส่งมาก แต่สามารถบรรทุกสินค้าได้ในปริมาณคราวละมากๆ ทำให้มีต้นทุนค่าระวางต่ำ ส่วนการขนส่งทางท่อจะเหมาะกับสินค้าบางประเภทเท่านั้น เช่น น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ เป็นต้น

   การขนส่งสินค้ามีความแตกต่างกับการขนส่งมวลชนตรงที่การขนส่งมวลชนต้องมีทั้งเที่ยวไปและเที่ยวกลับ นั่นคือ ผู้โดยสารเมื่อไปถึงปลายทางและปฏิบัติภารกิจเสร็จแล้วก็จะต้องเดินทางกลับมายังที่เดิม ในขณะที่การขนส่งสินค้าจะเป็นการขนส่งทางเดียว โดยเมื่อสินค้าไปถึงปลายทางแล้ว สินค้านั้นๆ จะถูกใช้หรือบริโภคจึงไม่มีการขนส่งกลับมายังต้นทางอีก แต่จะมีในบางกรณีที่สินค้าชำรุดเสียหายและต้องมีการส่งสินค้ากลับมาซ่อมในส่วนนี้ถือเป็นกระบวนการโจิสติกส์ย้อนกลับ (Reverse Logistics)

ชื่อหนังสือ
การจัดการการขนส่ง (Transportation Management)

ชื่อผู้แต่ง
ผศ.ทัศนีย์  สิราริยกุล

ปีที่พิมพ์
พ.ศ. 2558

อ้างอิง
จักกฤษณ์  ดวงพัสตรา. 2543. หลักการขนส่ง. โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร.
คำนาย  อภิปรัชญาสกุล. 2551. การจัดการขนส่ง. สำนักพิมพ์ ดวงกมลสมัย. กรุงเทพมหานคร.




วันจันทร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2561

เป้าหมายในชีวิตของฉัน


สัวสดีค้ะ หนูชื่อนกหวีด หนูเกิดวันอังคารที่ 3 มิถุนายน 2540 อายุ 21 ปี หนูก่ไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อกับแม่ถึงต้องตั้งชื่อหนูแบบนี้ตอนแรกหนูก็รู้สึกแปลกๆที่พ่อกับแม่ตั้งชื่อหนูแบบนี้แต่พอโตขึ้นหนูก็รู็สึกดีกับชื่อนี้แบบงงๆ พอโตขึ้นอีกหน่อยสิ่งที่ได้ยินมาแต่เด็กๆคือทุกคนชอบถามว่าหนูอยากเป็นอะไรเพราะเวลาหนูอยู่บ้านไม่ว่ามีกำแพงตรงไหนว่างหนูมักจะขีดเขียนแล้วเปรีบยเสมือนตัวเองเป็นครูอยู่ตลอดเวลาพอถึงเวลาใครๆถามก็ตอบว่าเป็นครูเพราะชอบขีดเขียนชอบตรวจการบ้านแต่พอมาปัจจุบันหนูก็ได้เรียนเข้ามาเรียนมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ศึกษาอยู่คณะ วิทยาการจัดการ สาขา โลจิสติกส์และซัพพลายเชน ตอนสอบสัมภาษณ์หนูตื่นเต้นมากกกกก....ตอนนั้นหนูจำได้หนูกลัว อาจารย์นัน มากกเพราะอาจารย์ดูเปรี้ยวมากกกก แต่พอถึงเวลาได้สัมภาษณ์ได้สอบกับอาจารย์ อิง กับ อาจารย์ อีฟ ซึ่งตอนนั้นหนูได้แค่ว่าอาจารย์ให้หนูท่องสูตรคูณ แล้วก็อยากให้หนูเป็นหลีดเพราะตอนนั้นโปรไฟล์ในพอตหนูมีแต่รูปที่หนูเป็นหลีดล้วนๆหนูก็รับปากอาจารย์ว่าหนูจะเป็นหลีด พอประกาศผลหนูสอบหนูรู็สึกดีอย่างบอกไม่ถูก พอได้เข้ามาเรียนหนูรู้สึกอบอุ่นที่รู่นพี่เค้าให้การตอนรับเป็นอย่างดีและหนูได้เป็นหลีดให้กับสาขาของหนูตามที่รับปากอาจารย์ทั้งสองท่านไว้ จนตอนนี้หนูอยู่ปีสาม เกรดหนูหร่อยหรอมากกแต่เป้าหมายของหนูคือหนูอยากเรียนให้จบหนูอยากช่วยเหลือแบ่งเบาภาระหน้าที่ให้กับพ่อกับแม่หนูอยากให้พ่อกับแม่สบายอยากหนูอยากมีงานทำดีๆมีเงินเดือนดีๆ หนูตั้งปณิธานไว้ว่า หนูไม่อยากแต่งงานมีครอบครัวหนูอยากอยู่กับพ่อกับแม่หนูอยากพาท่านไปเที่ยวๆที่เราไม่เคยได้ไปใช้ชีวิตอยู่แต่กับพ่อแม่ของหนู หนูอยากมีหอพักหรือห้องเช่าไว้ให้พ่อกับแม่มีบ้านหลังสวยๆรถสักคันให้พ่อกับแม่ ชีวิตหนูขออยู่กับพ่อกับแม่นั้นคือความสุขของหนู เรื่องการงานว่าหนูอยากทำงานแบบไหนหนูขอแค่งานที่หนูถนัด ทำแล้วสบายใจภูมิใจในงานที่จะทำ สามารถสร้างรายได้ให้กับตัวหนูได้ ก่อนหนูอายุ 30 หนูตั้งใจไว้คือหนูอยากซื้อบ้านสวยๆให้พ่อกับแม่แล้วบ้านหลังนั้นก็มีแค่พ่อแม่หนูน้องชายและครอบครัวของน้องชาย ที่คิดไว้หนูคงมีความสุขมากกกกแน่ๆ เพราะตั้งแต่เล็กจนโตบ้านหนูถูกโกงมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็น ลุงบ้าง น้าบ้าง อาบ้าง น่าตลกดีที่คนในครอบครัวกับโกงเราเองแม่หนูเคยคิดฆ่าตัวตายแต่โชคดีที่แม่คิดถึงหนูแม่ถึงไม่เลือกทำแบบนั้น หนูพยายามปลอบแม่บอกแม่ทุกวันว่ารอหนูเรียนจบน้ะอะไรที่เราขาดหนูจะพยายามหามาให้แม่ไม่ว่าแม่ต้องการอะไร อยากได้อะไรหนูจะเป็นคนหามาให้แม่ทุกอย่างหนูจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นเอง หนูจะทำให้แม่ด้วยมือของหนูเอง ไม่ว่าจะเป็น บ้าน รถ ครอบครัวที่อบอุ่น อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา นั่งกินข้าวด้วยกันทุกเย็น การได้ไปเที่ยวกับครอบครัวหนูจะทำให้ทุกอย่างเพื่อแม่กับพ่อ นี้คือเป้าหมายที่สูงสุดของหนู...... ขอบคุณค่ะ......

ชื่อหนังสือ โลจิสติกส์-โซ่อุปทาน ชื่อผู้แต่ง ผศ.ดร. ประจวบ กล่อมจิตร ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการและจัดการ คณะวิศวกรรมศาสตร์และเ...