วันจันทร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2561

เลตเตอร์ออฟเครดิตทางการค้าเพื่อการสั่งสินค้าขาเข้า


เลตเตอร์ออฟเครดิตทางการค้าเพื่อการสั่งสินค้าขาเข้า

     ต่อไปจะกล่าวเรื่องเลตเตอร์ออฟเครดิตทางการค้าเพื่อการสั่งสินค้าขาเข้าโดยเฉพาะ
วิธีการปฏิบัติเกี่ยวกับการขอเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิต

(1) ลูกค้าในประเทศไทยติดต่อขอซื้อสินค้าจากบริษัทผู้ขายที่ต่างประเทศ เมื่อตก
ลงทำสัญญาและเงื่อนไขในการซื้อขายเสร็จแล้ว
(2) ลูกค้าในประเทศไทยยื่นคำขอเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตติดต่อธนาคารพาณิชย์
ที่ตนติดต่อไว้ และแจ้งเงื่อนไขต่าง ๆ ที่ประสงค์ในคำขอนั้นตามที่ตกลงไว้กับผู้ขาย  ซึ่งสามารถยื่นคำขอที่ธนาคารสาขาได้ทั่วประเทศ ที่ทำหน้าที่เป็น Front office  ขณะที่ศูนย์ประมวลเอกสารสำคัญทั้งหมดมักจะอยู่ที่ธนาคารสำนักงานใหญ่ในกรุงเทพ ฯ
(3) เมื่อธนาคารอนุมัติแล้ว จะออกเลตเตอร์ออฟเครดิตให้ตามเงื่อนไขของลูกค้า
(ซึ่งมักประกอบด้วยรายการดังที่กล่าวไว้ข้างต้น)
(4) ธนาคารในประเทศไทยผู้ออกเลตเตอร์ออฟเครดิต จัดส่งเอกสารเลตเตอร์
ออฟเครดิตให้แก่ธนาคารตัวแทนที่ต่างประเทศ 2 ฉบับ โดยส่งทางแอร์เมล์หรือทางโทรสาร และส่งให้ลูกค้า 1 ฉบับ กับเก็บไว้เป็นหลักฐานที่ธนาคาร
(5) ธนาคารตัวแทนที่ต่างประเทศจะแจ้งและส่งเลตเตอร์ออฟเครดิตไปให้ผู้ขาย
สินค้าทราบ
(6) ผู้ขายจัดการส่งสินค้าลงเรือ แล้วนำเอกสารที่เกี่ยวข้องตามเงื่อนไขในเลต
เตอร์ออฟเครดิต(พร้อมเอกสารประกอบคือ ใบตราส่ง ใบกำกับสินค้า และกรมธรรม์ประกันภัย และเงื่อนไขการซื้อขาย) มายื่นต่อธนาคารเพื่อรับเงินตามตั๋ว หรือให้รับรองการชำระเงินตามระยะเวลาที่ระบุไว้ในตั๋ว
(7) เมื่อธนาคารตัวแทนที่ต่างประเทศตรวจเอกสารครบถ้วนตามเงื่อนไขในเลต
เตอร์ออฟเครดิตแล้ว ก็จะจ่ายเงินให้ผู้ขายสินค้า แล้วคิดเงินเอาจากธนาคารผู้ออกเลตเตอร์ออฟเครดิต กับส่งเอกสารในการขนส่งและเอกสารที่เกี่ยวข้องให้แก่ธนาคารผู้ออกเลตเตอร์ออฟเครดิต
(8) ธนาคารผู้ออกเลตเตอร์ออฟเครดิตได้รับเอกสารต่าง ๆ แล้วจะแจ้งให้ลูกค้าผู้
ขอเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตทราบ เพื่อให้นำเงินมาชำระราคาสินค้าและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ให้ธนาคารหรือให้มารับรองตั๋วแลกเงินตามแต่กรณี สำหรับราคาสินค้าที่เป็นเงินตราต่างประเทศตาม ป.พ.พ. มาตรา 196 ให้คิดเป็นเงินไทยตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินในสถาน ที่และในเวลาที่ใช้เงิน ซึ่งอัตราแลกเปลี่ยนอาจเปลี่ยนแปลง ลูกค้าอาจตกลงกับธนาคารขอกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนเงินไว้ล่วงหน้าก็ได้
(9) ลูกค้า (ผู้นำเข้าสินค้า) รับเอกสารแล้วนำไปรับสินค้าจากท่าเรือ

ในกรณีส่งสินค้าออก ขั้นตอนการเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตก็เช่นเดียวกัน แต่กลับทางกัน คือ ทางลูกค้าในต่างประเทศ หรือผู้สั่งซื้อสินค้าจากไทย  จะเป็นผู้เปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตที่ธนาคารในประเทศของเขา
     




ชื่อหนังสือ
เทคโนโลยีการขนส่งสาธารณะในเมือง: ระบบขนส่งสาธารณะใน กทม

ชื่อผู้แต่ง
ดร.นระ คมนามูล Ph.D. (London) วุฒิวิศวกรสาขาวิศวกรรมโยธา

ปีที่พิมพ์
ค.ศ.2007

อ้างอิง
http://www.tpa.or.th/writer/read_this_book_topic.php?bookID=589&read=true&count=true

การติดต่อสื่อสารเพื่อการสั่งซื้อทั้งวัตถุดิบและสินค้า




     การติดต่อสื่อสารเพื่อการสั่งซื้อทั้งวัตถุดิบและสินค้าต้องสะดวกรวดเร็วและชัดเจนระบบการถ่ายทอดส่งข้อมูลสารสนเทศหรือไอทีต้องมีเครือข่ายที่เชื่อมต่อทั้งในประเทศและกับต่างประเทศอย่างทั่วถึงและเชื่อมโยงกับระบบอื่นๆตั้งแต่แหล่งวัสดุโรงงานผลิตกรมศุลกากรจนถึงผู้ซื้อและมีมาตรฐานที่เป็นสากล เพื่อมิให้มีการผิดพลาดเกิดขึ้นไม่สูญเสียสามารถประหยัดต้นทุนสินค้าได้ประเทศต่างๆในโลกกำลังรณรงค์ด้านโลจิสติกส์เพื่อลดต้นทุนผลผลิตของประเทศโดยเฉพาะด้านการขนส่งกลุ่มยุโรปค่าโลจิสติกส์คิดเป็นร้อยละ7ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี)สหรัฐอเมริกาคิดเป็นร้อยละ10ของจีดีพี  ญี่ปุ่นเนื่องจากสภาพประเทศเป็นเกาะ ค่าโลจิสติกส์จึงสูงขึ้นถึงร้อยละ11ของจีดีพี ขณะที่ค่าโลจิสติกส์ของจีนอยู่ที่ร้อยละ18ของจีดีพี ทั้งนี้เนื่องจากต้นทุนด้านการขนส่งผลิตภัณฑ์เป็นค่าขนส่งร้อยละ 50(สูงกว่าประเทศอื่นสองเท่า)สำหรับประเทศไทยยังไม่มีการศึกษาค่านี้แต่คาดว่าสูงมากเพราะความไม่สมบูรณ์และทันสมัยของระบบขนส่งบางชนิดที่ปกติควรประหยัดค่าใช้จ่ายมาก เช่น ทางรถไฟ และทางน้ำ โดยเฉพาะขาดการเชื่อมโยงการขนส่งต่างรูปแบบเข้าด้วยกันให้ต่อเนื่อง เช่นคอขวดของระบบทางหลวงเข้าสู่ท่าเรือหรือลานตู้คอนเทนเนอร์ของรถไฟเป็นต้น รัฐบาลไทยจึงเร่งพัฒนาปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งทั้งระบบเอกเทศ (single mode) การขนส่งที่สนับสนุนการขนส่งระบบอื่น (feeder mode) และการปรับปรุงระบบศุลกากรให้รวดเร็วแบบ One Day Clearance หรือหนึ่งวันทันใจเป็นต้น เพื่อลดค่าโลจิสติกส์ของประเทศและเพิ่มศักยภาพของประเทศที่จะแข่งขันกับประเทศอื่น ๆ






ชื่อหนังสือ

เทคโนโลยีการขนส่งสาธารณะในเมือง: ระบบขนส่งสาธารณะใน กทม

ชื่อผู้แต่ง  
ดร.นระ คมนามูล  Ph.D. (London) วุฒิวิศวกรสาขาวิศวกรรมโยธา

ปีที่พิมพ์   
ค.ศ. 2007

อ้างอิง    http://www.tpa.or.th/writer/read_this_book_topic.php?bookID=589&read=true&count=true

วันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ประเภทสินค้าที่ขนส่งทางราง


     ในยุคแรกๆ รถไฟมีบทบาทให้บริการขนส่งสินค้าทุกชนิด แต่ปัจจุบันนิยมขนส่งสินค้าดังต่อไปนี้ทางรถไฟ

1.สินแร่ (Minerals)


   เป็นแร่วัตถุดิบเพื่อแปรสภาพเป็นวัสดุและนำไปใช้ผลิตสินค้าในขั้นตอนต่อไป รถไฟขนแร่เหล็ก ยิบซั่ม ถ่านหิน และอื่นๆโดยมีส่วนแบ่งการขนส่งมาก เช่น ในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี ค.ศ.2001 รถไฟขนถ่านหอนร้อยละ 43.8 แร่มีราคาต่ำและส่งมอบปริมาณมากจึงเหมาะสมกับการขนส่งด้วยรถไฟ

2.ผลิตภัณฑ์การเกษตร ( Farm Products)

   ผลิตภัณฑ์การเกษตรครอบคลุมถึงผลิตภัณฑ์อาหารเกษตร ประเทศผู้ผลิตสินค้าเกษตรที่สำคัญ เช่น สหรัฐอเมริกา คานาดา และออสเตรเลีย เป็นต้น ใช้รถไฟขนส่งจากเกษตรกรไปยังโรงงานแปรรูปหรือไปยังท่าเรื่อเพื่อส่งออก ในประเทศสหรัฐอเมริกาใช้รถไฟขนส่งผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตรและอาหารเป็นอันดับรองจากสินแร่โดนในปี พ.ศ.2001ขนส่งถึง 2.7ล้านตู้ ทั้งเพื่อใช้ในประเทศและส่งออก

3.สินค้าเหลว (Liquid Cargo )

   สินค้าเหลวประกอบด้วย  ผลิตภัณฑ์ปิโตเลียม เคมีเหลว และน้ำมันพืช รถไฟมีบทบาทในการขนส่งสินค้าเหลว สินค้าเหลวส่วนใหญ่เป็นสินค้าอันตราย (Hazardous)
ซึ่งอาจเกิดการระเบิดและลุกไหม้ได้รวมทั้งเป็นพิษต่อมนุษย์สัตว์ แม้ว่ารถไฟจะเหมาะสมกับการขนสินค้าเหล่านี้ แต่ในทางปฏิบัติกลับปรากฏกว่าสินค้าประเภทนี้ใช้การขนส่งทางถนนมากที่สุด และมีการแข่งขันขั้นรุนแรง ซึ่งเป็นเหตุผลทางธุรกิจ

4.สินค้าอุตสาหกรรม ( Manafacturing Goods)    

   สินค้าอุตสาหกรรมมีหลากหลายในชีวิตโดยทั่วไปมีมูลค่าสูง และมีปริมาณการขนส่งน้ำหนักมาก รูปแบบการขนส่งที่เหมาะสมจึงเป็นทางถนนและเครื่องบินแตะสำหรับสินค้าที่มีขนาดมากและขนาดใหญ่ เช่นเครื่องจักร รถบรรทุกขนาดใหญ่ โครงสร้างเหล็กซึ่งไม่อาจขนด้วยรถบรรทุกก็ใช้รถไฟหรือเรือ



ชื่อหนังสือ
การจัดการการขนส่ง (Transportation Management)

ชื่อผู้แต่ง
ผศ.ทัศนีย์  สิราริยกุล

ปีที่พิมพ์
พ.ศ. 2558

อ้างอิง
จักกฤษณ์  ดวงพัสตรา. 2543. หลักการขนส่ง. โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร.
คำนาย  อภิปรัชญาสกุล. 2551. การจัดการขนส่ง. สำนักพิมพ์ ดวงกมลสมัย. กรุงเทพมหานคร.



เส้นทางในการขนส่งทางถนน (Route of Road Transportation)


    1.ทางหลวงพิเศษ
        ทางหลวงพิเศษคือทางหลี่ออกแบบเพื่อให้การจราจรผ่านได้ตลอดรวดเร็วเป็นพิเศษ โดยควบคุมให้มีการเข้าออกได้เฉพาะด้วยทางเสริม เช่น ที่บริเวณจุดตัดกันของถนนจะเป็นทางแยกต่างระดับหรือก่อสร้างเป็นสะพานให้ถนนสายอื่นยกข้ามทางหลวงพิเศษนี้ โดยไม่รบกวนการสัญจรบนทางหลวงพิเศษนี้ ทางหลวงประเภทนี้กรมทางหลวงเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างขยายฐานะบำรุงรักษาและได้ลงทะเบียนไว้เป็นทางหลวงพิเศษ
     2.ทางหลวงแผ่นดิิน
        ทางหลวงแผ่นดิินคือทางหลวงสายหลักที่เป็นโครงข่ายเชื่อมระหว่างภาค จังหวัด อำเภอ ตลอดจนสถานที่สำคัญ โดยกรมทางหลวงเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง ขยาย บูรณะและบำรุงรักษา และได้ลงทะเบียนไว้เป็นทางหลวงแผ่นดิน
     3.ทางหลวงชนบท
        ทางหลวงชนบทคือทางหลวงที่กรมทางหลวงชนบทเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างขยาย บูรณะและบำรุงรักษา และได้ลงทะเบียนไว้เป็นทางหลวงชนบท   
     4.ทางหลวงท้องถิ่น
        ทางหลวงท้องถิ่นคือทางหลวงที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างขยาย บูรณะและบำรุงรักษา และได้ลงทะเบียนไว้เป็นทางหลวงท้องถิ่น
     5.ทางหลวงสัมปทาน
        ทางหลวงสัมปทานคือทางหลวงที่รัฐบาลได้ให้สัมปทานตามกฏหมายว่าด้วยทางหลวงที่ได้รับสัมปทาน และได้ลงทะเบียนไว้เป็นทางหลวงสัมปทาน

สถานีสำหรับการขนส่งทางถนน (Stations of Road Transport)


     นอกจากสถานีขนส่งผู้โดยสารที่พบเห็นคุ้นเคยกันโดยทั่วไปตามปกติแล้ว ยังมีในส่วนของสถานีขนส่งสินค้าทางถนน ซึ่งมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 ประเภท ดังนี้

     1.สถานีรวบรวมสินค้า (Consolidation Station) เป็นสถานีที่รวบรวมสินค้าก่อนที่จะบรรทุกไปยังจุดหมายปลายทาง

    2.สถานีแยกและบรรจุสินค้า (Break Bulk Station) เป็นสถานีที่แยกและบรรจุสินค้า ซึ่งจะอำนวยความสะดวกจากการบรรทุกในปริมาณมากๆ ให้เป็นส่วนย่อยๆ ก่อนที่จะกระจายสินค้าไปยังพื้นที่เป้าหมาย


     3.สถานีพักสินค้า (Relay Station) เป็นสถานที่พักสินค้าหรือพักรถ เพื่อจอดก่อนใช้งานต่อ เช่น สร้างเป็นสถานที่พักรถสำหรับรอเปลี่ยนคนขับ หรือพักรถเพื่อรอเวลขับต่อไปเนื่องจากติดเวลาห้ามรถใหญ่เข้าเขตเมือง เป็นต้น






ชื่อหนังสือ
การจัดการการขนส่ง (Transportation Management)

ชื่อผู้แต่ง
ผศ.ทัศนีย์  สิราริยกุล

ปีที่พิมพ์
พ.ศ. 2558

อ้างอิง
จักกฤษณ์  ดวงพัสตรา. 2543. หลักการขนส่ง. โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร.
คำนาย  อภิปรัชญาสกุล. 2551. การจัดการขนส่ง. สำนักพิมพ์ ดวงกมลสมัย. กรุงเทพมหานคร.


     

ชื่อหนังสือ โลจิสติกส์-โซ่อุปทาน ชื่อผู้แต่ง ผศ.ดร. ประจวบ กล่อมจิตร ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการและจัดการ คณะวิศวกรรมศาสตร์และเ...