การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน
ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศได้แพร่ขยายอย่างมากในธุรกิจต่างๆ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการบริหารโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน ต้องคำนึงถึง 4 ส่วนคือ (1) ฮาร์ดแวร์ (2) ซอฟต์แวร์ (3) การลงทุนด้านเครือข่าย (4) การออกแบบระบบ ทั้งการใช้เทคโนโลยีสานสนเทศที่ดีจะทำให้สามารถเตรียมข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อใช้ในสถานการณ์และสถานที่ที่ถูกต้องได้ และยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การทำงานของโซ่อุปทานเป็นไปอย่างโดยรวมได้ดี ตัวอย่างการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในโซ่อุปทานที่ชัดเจนคือ การแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Data Interchange; EDI) ซึ่งเป็นการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่สำคัญที่ทำให้ระบบเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน องค์กรที่ใช้ EDI จะสามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้ดีกว่า อย่างไรก็ตาม การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการเชื่อมโยงข้อมูลที่ดีต้องคำนึงถึงกลยุทธ์ขององค์กร ทั้งนี้ต้องพิจารณาไปถึงความสามารถของเทคโนโลยีสารสนเทศในแต่ละองค์กรอีกด้วย
หลักการการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการบริหารจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน ต้องคำนึงถึงลักษณะขององค์กรตั้งแต่กลยุทธ์ในการบริหาร จนถึงกลยุทธ์การดำเนินงานและสิ่งแวดล้อมในการนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้ในระบบ นอกจากนี้บทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศที่จะทำให้โซ่อุปทานออกไปสู่ระดับโลก (Global Supply Chain) ประสบความสำเร็จในการบริหารคือ
- ต้องสามารถสะท้อนให้เห็นวิสัยทัศน์ของผู้บริหารระดับสูงได้
- เทคโนโลยีสารสนเทศต้องช่วยในการแปลวิสัยทัศน์มาเป็นหลักการที่ทำให้เกิดขึ้นจริงได้
- เทคโนโลยีสารสนเทศต้องช่วยในการทำงานเป็นทีม และสามารถให้ข้อมูลเพื่อช่วยการตัดสินและประมวลความสามารถของระบบได้
ชื่อหนังสือ
การประยุกต์การจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทานในงานอุตสาหกรรม
ชื่อผู้แต่ง
ผศ.ดร. ประจวบ กล่อมจิตร ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการและจัดการ คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร อ.เมือง จ.นครปฐม
ผศ.ดร. ประจวบ กล่อมจิตร ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการและจัดการ คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร อ.เมือง จ.นครปฐม
ปีที่พิมพ์
พ.ศ. 2556
อ้างอิง
ประจวบ กล่อมจิตร. การออกแบบโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อเพิ่มผลผลิตและความปลอดภัย (Industrial Plant Design for Safety and Productivity). สำนักพิมพ์ซีเอ็ดยูเคชั่น, 2555.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น